ตัวช่วยในการทำ Influencer Marketing ให้ปัง Start Influencer Marketing Campaign with Motive Influenceอยากให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก อยากให้สินค้ามียอดการสั่งซื้อมากขึ้น Influencer Marketing คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่สร้างผลลัพธ์ที่ว่ามานี้ได้จริง แต่การทำ Influencer Marketing ก็เป็นกระบวนการที่ใช้เวลาและมีหลายขั้นตอนที่แบรนด์หรือนักการตลาดต้องจัดการ วันนี้ Motive Influence ขอพาไปเปิดตัวช่วยที่จะทำให้การทำ Influencer Marketing ของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น
1. ใช้ Influencer Agency ช่วยบริหารจัดการตั้งแต่ต้นจนจบ
การทำ Influencer Marketing มีรายละเอียดและขั้นตอนหลายอย่างที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ ถ้าหากแบรนด์เราไม่ได้ทีมที่มีการบริหารจัดการ Influencer Marketing ที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เราอาจต้องใช้เวลาในแต่ละขั้นตอนมาก และประสิทธิภาพในการทำ Influencer Marketing อาจไม่ได้สูงเท่าที่ควรจะเป็น ในกรณีนี้ ตัวช่วยที่เหมาะกับเราอาจเป็น Influencer Agency
โดยปกติแล้ว บริษัท Influencer Agency จะมีบริการที่ช่วยเราแบบครบวงจร ตั้งแต่การเลือก Influencer ที่เราไม่จำเป็นต้องไปตามหาเอง โดยที่ Motive Influence ถือเป็น Influencer Agency ที่มีฐานข้อมูลของ Influencer จำนวนมาก พร้อมข้อมูลแบบเชิงลึก อีกทั้งยังมีระบบช่วยทีมงานของเราในการคัดเลือก Influencer ที่มีคุณสมบัติที่แบรนด์ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า Influencer มีภาพลักษณ์ที่เหมาะกับแบรนด์ คอนเทนต์ที่ทำเป็นไปในทิศทางที่แบรนด์ต้องการ และกลุ่ม Follower ของเขาเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์จริงๆ (ทำไมบริษัท Influencer Marketing ถึงหา Influencer ได้ดีกว่า Creator Marketplace)
นอกจากนี้ Influencer Agency ที่มีคุณภาพ ยังสามารถตรวจสอบรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับ Influencer เพื่อป้องกันผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดแบรนด์ของเราได้ด้วย เช่น ตรวจสอบได้ว่า Influencer คนนี้มี Follower ปลอม หรือเคยทำงานร่วมกับบริษัทคู่แข่งของเราหรือไม่
และที่สำคัญ Influencer Agency ยังช่วยเป็นตัวกลางในการติดต่อกับ Influencer ช่วยสื่อสารความต้องการของแบรนด์ ทำข้อตกลง พร้อมตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ช่วยลดความยุ่งยากในการประสานงานกับ Influencer ลงไปได้อย่างมาก และหากเกิดปัญหาระหว่างการทำแคมเปญ แบรนด์ก็สามารถสบายใจได้ว่า ยังมีผู้รับผิดชอบและคอยช่วยเราแก้ปัญหาอยู่ตลอด
2. ใช้ Influencer Marketplace ช่วยหา Influencer ที่เราต้องการ
สำหรับแบรนด์ที่อยากทดลองทำ Influencer Marketing ที่อาจจะไม่ละเอียดมากนัก Influencer Marketplace บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ถือเป็นทางเลือกอันดับรองลงมาจากผู้ให้บริการ Influencer Agency
Influencer Marketplace เป็นพื้นที่เปิดโอกาสให้เหล่า Influencer ได้มาพรีเซนต์ตัวตนและคอนเทนต์ของตัวเอง กลายเป็นช่องทางที่ทำให้แบรนด์สามารถเข้าไปหา Influencer ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น โดยสิ่งที่แบรนด์ต้องทำคือเลือกว่าต้องการหา Influencer สำหรับแพลตฟอร์มไหน แล้วเข้าไปที่ Influencer Marketplce ของแพลตฟอร์มนั้น โดยชื่อ Marketplace ของแต่ละแพลตฟอร์มจะมีความแตกต่างกัน
– Instagram: Instagram’s Creator Marketplace
– TikTok: TikTok Creator Marketplace
– YouTube: YouTube BrandConnect
instagram creator marketplace & TikTok creator marketplace
แต่ข้อควรรู้ของการใช้ Influencer Marketplace คือ ข้อมูลของ Influencer ในแต่ละแพลตฟอร์มไม่ได้เชื่อมต่อกัน นั่นหมายความว่าถ้าเราไม่สามารถหา Influencer สำหรับทั้ง Instagram, Tiktok และ YouTube ในรอบเดียวได้ และข้อมูลเกี่ยวกับ Influencer ที่มีบนแพลตฟอร์มอาจจะไม่ค่อยละเอียด รวมถึง Marketplace ไม่ได้มีการดูแลรับประกันอะไรให้กับแบรนด์มากนัก เราจึงต้องมีมาตรการการตรวจสอบข้อมูลของ Influencer เพิ่มเติมเองว่า ตัว Influencer มีจุดไหนที่ขัดกับของแบรนด์เราไหม เคยทำคอนเทนต์ที่อาจทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เสียหายหรือเปล่า
และหลังจากตกลงทำงานร่วมกันกับ Influencer แล้ว กรณีมีความเสียหายเกิดขึ้นจากฝั่ง Influencer เช่น คอนเทนต์ที่ Influencer สร้าง มีการใช้เพลงหรือรูปภาพที่ผิดลิขสิทธิ์ จนแพลตฟอร์มลบคอนเทนต์นั้นออก Marketplace ก็จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เราจึงต้องมีหน้าที่เช็กรายละเอียดยิบย่อยเหล่านี้ด้วยตนเอง
3. ใช้ Social Media Management Tool เพื่อช่วยติดตามผลลัพธ์
ขั้นตอนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการทำ Influencer Marketing คือ การคอยติดตามว่าแคมเปญที่เรา Launch ไปได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการหรือไม่ ซึ่งผลลัพธ์ที่ว่ามักจะหมายถึง Metric ต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดีย เช่น Impression (จำนวนครั้งที่คนเห็นคอนเทนต์), Reach (จำนวนผู้ใช้งานที่เห็นคอนเทนต์) หรือ Engagement (จำนวนครั้งที่คนมีปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์หรือเพจของเรา)
การติดตามผลที่ดีไม่ใช่เป็นการดูผลลัพธ์ตอนท้ายสุดของแคมเปญเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการติดตามความคืบหน้าของแคมเปญอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแบบ Real-Time ซึ่งถ้าหากแบรนด์ของเรามีโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์ม และทำงานร่วมกับ Influencer หลายคน การ Track สิ่งเหล่านี้เองอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ตัวช่วยที่น่าสนใจจึงเป็น Social Media Management Tool เครื่องมือที่ช่วยให้เรา Monitor ความคืบหน้าของแคมเปญในหลายแพลตฟอร์มไว้ในที่เดียว นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันติดตามว่าผู้คนพูดถึงแบรนด์ของเราว่าอะไรบ้าง และ Brand Sentiment (ความรู้สึกของคนเมื่อพูดถึงแบรนด์) เป็นอย่างไร ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางการตลาดได้อย่างชัดเจน และสามารถปรับ Strategy ให้ตรงจุดมากขึ้น